ประวัติวัดสระบัว


บทที่ ๒ ประวัติวัดสระบัว วัดเก่าแก่สมัยอยุธยา อายุกว่า ๔๐๐ ปี
๒.๑ วัดสระบัว ในอดีต “วัดสระบัวเป็นวัดเก่าแก่ในสมัย
อยุธยา อายุกว่า ๔๐๐ ปี ตั้งอยู่กลางตัวเมืองเพชรบุรี หากมองผ่านอย่างผิวเผินแล้ว ดูเหมือนจะเป็นเพียงเป็นวัดธรรมดาวัดหนึ่ง แต่เมื่อได้เข้ามาในบริเวณวัดแล้ว จะพบกับพระอุโบสถเก่าแก่ ซึ่งเป็นศิลปะสมัยกรุงศรีอยุธยาที่ยังเหลืออยู่เป็นหลักฐาน เป็นพระอุโบสถที่มีความสวยงามอ่อนช้อย ด้วยศิลปะอันบรรจงสร้างของช่างสมัยกรุงศรีอยุธยาอย่างแท้จริง”




๒.๒ วัดสระบัว : ในปัจจุบัน
วัดสระบัว ตั้งอยู่เลขที่ ๖๓ ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย อาณาเขตทิศเหนือจดวัดรัตนตรัย ทิศใต้จดวัดพระพุทธไสยาสน์ ทิศตะวันออกจดถนนคีรีรัถยา ทิศตะวันตกจดเชิงเขาพระนครคีรี มีธรณีสงฆ์จำนวน ๒ แปลง เนื้อที่ ๔ ไร่ ๕๒ งาน

          วัดสระบัว สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ปัจจุบันเป็นสถานที่อนุรักษ์ของกรมศิลปากร ตามประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๗๒ ตอนที่ ๓ พุทธศักราช ๒๔๘๔
          วัดตั้งอยู่เลขที่ ๖๓ ถนนคีรีรัฐยา ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี ติดกับเชิงเขาอุทยานประวัติ ศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง) ด้านทิศตะวันออก 
           อาณาเขตทิศเหนือ จดวัดรัตนตรัย ทิศใต้จดวัดพระพุทธไสยาสน์ ทิศตะวันออกจดถนนคีรีรัฐยา ทิศตะวันตกจดเชิงเขาพระนครคีรี  มีเนื้อที่ ๔ ไร่ ๕๒ งานโฉนดที่ดินเลขที่  ๘๗๒๓ และ  ๘๗๒๖  อาคารเสนาสนะประกอบด้วยอุโบสถ กว้าง ๘ เมตร  ยาว ๑๖ เมตร หอสวดมนต์ กว้าง ๓.๕ เมตร  ยาว ๙ เมตร เป็นอาคารไม่้ทรงไทย  กุฏิสงฆ์จำนวน ๕ หลังเป็นอาคารไม้ทรงไทย ๔ หลัง  ครึ่งตึกครึ่งไม้  ๑ หลัง อาคารเรียนพระอภิธรรม  กว้าง ๘ เมตร ยาว ๓๖ เมตร ๑  หลัง ด้านหน้าอาคารเรียนเป็นสระบัวสี่เหลี่ยมจัตุรัส
   
 การบริหารและการปกครองมีเจ้าอาวาส ดังต่อไปนี้
  ๑. พระอาจารย์ทองดี พุทธศักราช ๒๔๘๔-๒๔๙๐
  ๒. พระมหาเคี้ยง มเหสิโก พุทธศักราช๒๔๙๐-๒๕๐๔
  ๓. พระมหาเปรย ติสฺสเทโว พุทธศักราช ๒๕๐๔-๒๕๓๙
  ๔. พระอธิการสม สมจิตฺโต พุทธศักราช ๒๕๓๙-๒๕๔๐
  ๕. พระอธิการเทพ สมาหิโต  พุทธศักราช ๒๕๔๐-๒๕๔๘
  ๖. ดร.พระมหาทศพร อิทฺธิวโร พุทธศักราช ๒๕๔๘- ปัจจุบัน

"วัดสระบัว" เป็นวัดเก่ากลางเมืองในตัวเมืองเพชรบุรี
           เป็นสถานทีท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองเพชรบุรี ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้างที่แน่นอนว่าสร้างขึ้นในสมัยใด แต่จากหลักฐานทางโบราณคดีที่มีอยู่ ทำให้นักวิชา การ และนักปราชญ์ทางโบราณคดีที่สำคัญ เชื่อว่าวัดนี้สร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยา
          เนื่องจากยังมีอุโบสถเหลือยู่เป็นหลักฐาน อุโบสถของวัดนี้เป็นฝีมือช่างครั้งสมัยกรุงศรี อยุธยาอย่างแท้จริง  ซึ่งยังไม่เคยได้ถูกซ่อมแซมให้ผิดรูปโฉมไปจากเดิม ยังคงมีศิลปะของสมัยกรุงศรีอยุธยาหลงเหลืออยู่ ทั้ส่วนบน และส่วนล่าง คือหลังคาและลาดบัว   สำหรับลาดบัวสมัยกรุงศรีอยุธยานั้นทำเป็นเส้นขนานโอนหรือโค้งนิดๆ คล้ายผลกล้วย (ทรงเรือสำเภา) ไม่ได้ทำเป็นเส้นตรง เหมือนในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
         อีกทั้งยังมีความงดงามด้วยลายปูนปั้น ที่ปรากฏในวัดสระบัว ประกอบด้วยซุ้มประตูกำแพง แก้ว ทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ฐานใบเสมา ปรางค์ประดับด้าน
หน้าอุโบสถ และอุโบสถ

            หน้าบันอุโบสถ สลักไม้รูปนารายณ์ทรงครุฑ  ลายกนกที่ประดับ เลึ้อยเป็นช่องาม
มาก ตรงหน้าบันปีกเล็กรูปนกและสิงห์ครึ่งตัว พระประธานภายในอุโบสถ  เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นสมัยกรุงศรีอยุธยา เพดานมีภาพเขียนลวดลายปิดทองล่องชาด   ทำเป็นลายดาวและลวดลายต่างๆ ออกแบบด้วยลายปรุ เขียนด้วยดินเหลืองลงบนพื้นแดง การสบัดกนกเปลวอ่อนพริ้วราวกับเถาไม้ในธรรมชาติ หน้าต่างโบสถ์ข้างละ ๒ บาน บานประตูเขียนรูปทำนองลายปรุ รูปเทพพนมยืน และเทวดาถือพระขรรค์
          หลังบานประตูด้านหน้าเขียนรูปเซี่ยวกาง ยืนบนบ่ายักษ์แบก จัดว่าเป็นฝีมือช่างสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่งดงามอีกแห่งหนึ่ง
          สิ่งที่น่าชมอีกอย่างหนึ่งคือ  พัทธสีมารอบอุโบสถ  มีลวดลายปูนปั้น  ตั้งแต่ฐานขึ้นไปจนเกือบถึงยอด  ชั้นล่างเป็นรูปยักษ์แบกทั้ง ๔ ด้าน ชั้นที่ ๒ เป็นรูปครุฑ  ชั้นที่ ๓ เป็นลายกระจัง  ชั้นที่ ๔ เป็นลายดอกบัว และต่อไปเป็นลายเสมาคู่พัทธสีมานี้ สูงทั้งฐานประมาณ ๒.๕๐ เมตร


ฐานใบเสมา

           สิ่งที่น่าชมอีกอย่างหนึ่งคือพัทธลีมารอบอุโบสถ มีลวดลายปูนปั้นตั้งแต่ฐานขึ้นไปจนเกือบถึงยอด ชั้นล่างเป็นรูปยักษ์แบกทั้ง ๔ ด้าน ชั้นที่ ๒ เป็นรูปครุฑแบก  ชั้นที่ ๓ เป็นลายกระจัง ชั้นที่ ๔ เป็นลายดอกบัว และชั้นสุดท้ายเป็นใบพัทธเสมาคู่  สูงโดยประมาณจากฐานถึงยอด ๒ เมตรครึ่ง
           ฐานใบเสมาทั้งหมดมี ๘ ฐาน มีรูปทรง ขนาดเท่ากันทุกด้าน    สูง ๑.๘๑ เมตร กว้าง ๑.๔๔ เมตร ฐานใบใบเสมาเอก ด้านหน้าอุโบสถ   มีลักษณะแตกต่างไปจากฐานอื่น คือ เป็นทรงแปดเหลียม  บนหน้ากระดานท้องไม้ ฉาบปูนเรียบ  ส่วนที่มีลายประดับมี   ชั้น  ชั้นสุดท้ายใบพัทธเสมาสลักรูปยักษ์ถือกระบอง 
            ส่วนประกอบปูนปั้น ประดับบนของฐานเสมานั้น  ชั้นแรกประกอบไปด้วยยักษ์แบก จีนแบก ฝรั่งแบก ชั้นที่ ๒ เป็นครุฑแบก ประดับอยู่ตรงตำแหน่งย่อมุมไม้ ๑๒ สลับกับนรสิงห์แบก  ชั้นที่ ๓ เป็นลายกระจัง ชั้นที่ ๔เป็นบัวกลุ่มรองรับใบเสมาคู่   โดยตลอดทุกฐานเสมา
            ลายต่างๆ ที่ใช้ประดับบนใบเสมา ประกอบด้วยลายประจำยาม ลายก้ามปู ลายดอกจอก ลายดอกลำดวน ลายประจำยามลูกฟัก ลายกระจัง บัวกลุ่ม ยักษ์แบก จีนแบก ฝรั่งแบก ครุฑแบก นรสิงห์แบก
 พระปรางค์
         ปรางค์ที่ประดับหน้าอุโบสถวัดสระบัว มี ๒ องค์ ฐานล่างเป็นฐานเขียง ถัดขึ้นไปเป็นนสิงห์ ๒ ชั้น ยอดบนสุดเป็นนพศูล ลักษณะเป็นปรางค์ย่อมุมไม้ ๒๐ ทรงชะลูด ซึ่งมีมาตั้งแต่ต้นอยุธยา แต่จากลวดลายที่ใช้ประดับปรางค์ เมื่อเทียบกับลวดลายที่ใช้ในสมัยอยุธยาตอนปลายแล้วใกล้เคียงกัน ทำให้คาดได้ว่าปรางค์ประดับหน้าอุโบสถวัดสระบัว คงสร้างใน
สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย
          ซุ้มประตูทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ลวดลายที่ใช้ประดับมีลักษณะและการออกลาย ต่างจากลายที่ใช้ประดับที่ฐานใบเสมา ปรางค์และอุโบสถ  รูปทรงสถาปัตย์ของซุ้มประตูทั้งสอง เป็นยอดทรงปรางค์ มีลักษณะแตกต่างจากซุ้มประตูอุโบสถโดยทั่วไป

สรุปศิลปกรรมที่ปรากฏในวัดสระบัว
 ๑. ลายดาวเพดาน พระประธาน ฐานชุกชีสร้างขึ้นในรัชกาล สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง (พ ศ ๒๑๗๒ - ๒๑๙๙)
  ๒. ซุ้มเสมา สร้างในสมัยรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง หรือ  สมเด็จพระนาราย์มหาราช (พ ศ ๒๑๗๒ - ๒๒๓๑)
  ๓. ปรางค์ประดับหน้าอุโบสถ สร้างในสมัยรัชกาลสมเด็จพระเพท ราชา หรือสมเด็จพระเจ้าเสือ (พ.ศ ๒๒๓๑ - ๒๒๕๑)
  ๔. ปูนปั้นหน้าบันอุโบสถ สร้างในสมัยรัชกาลสมเด็จพระเจ้าเสือ (พศ ๒๒๔๓ - ๒๒๕๑)
  ๕. ลายเขียนทวารบาล สร้างในสมัยรัชกาลสมเด็จพระบรมโกศ  (พ.ศ.๒๒๗๕ - ๒๓๐๑)
        ทุกวันนี้ด้วยความเก่าและอายุอันยาวนาน  ทำให้เสนาสนะภายในวัดดูทรุดโทรมลงไปมาก  สมควรที่พุทธศาสนิกชนช่วยกันทำนุบำรุงให้สถิตสถาพรตลอดไป....


ฟ้าประทาน กุลภักดีประกาศ (โพสต์ทูเดย์ : ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๗)
ผู้สื่อข่าว คุณฟ้าประทาน กล่าวถึงวัดสระบัวในปัจจุบันว่า ...

ท่านเจ้าอาวาส ดร.พระมหาไชยพร ท่านเป็นนักบริหารจัดการวัด เพื่อให้วัดนี้เป็นสถานที่ ที่หน้าศรัทธา และมีคุณค่า ท่านส่งเสริมด้านการศึกษาอบรมแก่พุทธศาสนิกชนทั่วไป ที่มีความสนใจในหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา โดยจัดให้มีการเรียนการสอนพระอภิธรรม สำหรับพระภิกษุ และบุคคลโดยทั่วไป
ท่านปรับปรุงบูรณะ สร้างเสริม พระอุโบสถ์ กุฏิสงฆ์ อาคารเรียนอภิธรรม ห้องน้ำ ให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ในช่วงเวลาที่ท่านมารับเป็นเจ้าอาวาสวัดสระบัว ชั่วระยะเวลาไม่นาน ถือว่าท่านเป็นผู้มีความตั้งใจสูงมาก …


อาคารเรียน หน่วยบริการอภิธรรมโชติกะวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วัดสระบัว เพชรบุรี





บรรยากาศภายในห้องเรียน



พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมพระบรมวงศ์
เสด็จเยี่ยมชมวัดสระบัว เป็นการส่วนพระองค์




๔.๒.๑ สถิติอาจารย์สอนอภิธรรม

ปี
พระภิกษุ/รูป
อาจารย์ชาย/คน
อาจารย์หญิง/คน
หมายเหตุ
๒๕๕๕ ๒ - ๕ แม่ชี ๒ ท่าน
๒๕๕๖ ๒ - ๕ แม่ชี ๒ ท่าน
๒๕๕๗ ๒ - ๖ แม่ชี ๓ ท่าน


ปี
พระภิกษุ/รูป
นักศึกษาชาย/คน
นักศึกษาหญิง/คน
แม่ชี/รูป
๒๕๕๕ ๑ - ๓ ๒
๒๕๕๖ ๒ ๑ ๔ ๒
๒๕๕๗ - - ๙ ๓


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประวัติศาสตร์เพชรบุรี

เพชรบุรีเป็นเมืองเก่าแก่โบราณ เคยเป็นอาณาจักรเล็กๆ อาณา จักรหนึ่ง มีเจ้าผู้ครองนครหรือกษัตริย์ปกครอง บางสมัย เป็นอิสระ บาง สมัยอาจตกเป็น...